มีคำถามบ่อยเรื่องทิศทางของนิตยสารตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมเริ่มทำ The Papersmith ร้านนิตยสารอิสระ ที่ก่อนจะเจอโควิดเราสามารถสร้างจำนวนปกหมุนเวียนสูงถึง 400 ปก ในเรื่องของการจัดการสต็อคก็จัดว่าเป็น Healthy Stock พอสมควร
ผมเริ่มไปงานเกี่ยวกับนิตยสารตั้งแต่ปี 2015 ที่ลอนดอน เป็นงานที่เหล่าคนทำนิตยสารอิสระมาแลกเปลี่ยนความคิด นำเสนอ Success Story กระทั่ง Failure Story ของพวกเขา ในปีแรกจะมีคนราวสองร้อยคน คุยกันสนุกสนานทีเดียว จริง ๆ มีงานนิตยสารอิสระอีกที่คือที่เยอรมันแต่ผมไม่ได้ไป เหตุผลถ้าไปลอนดอนจะได้งานอย่างอื่นพ่วงด้วยมากกว่า
เท่าที่สังเกตมาตลอดหลายปีนิตยสารอิสระที่โด่งดังขึ้นมาจะมีหลักในการทำนิตยสารอยู่สองเรื่อง
อย่างแรกคือการทำเนื้อหาแบบ Long-form Journalism เป็นลำดับแรก เนื้อหาสำคัญแต่หัวข้อสำคัญกว่า การเลือกหัวข้อต้องมีส่วนขับเคลื่อนสังคม แนวคิด และชีวิต หรือเป็น Social Change ต้องมีพลังขนาดนั้น นิตยสารส่วนใหญ่ที่เห็นจะไม่ได้เน้นหาแบบ Hobby อาทิ นิตยสาร Ladybeard ที่โด่งดังจากการทำเรื่องเพศสัมพันธ์ เป็นหัวข้อที่ทำยากมาก ทีม Ladybeard เป็นผู้หญิงทั้งหมดทำเนื้อหาที่ครอบคลุมตั้งแต่เพศสัมพันธ์ คืออะไร สำคัญยังไง ขับเคลื่อนด้านจิตวิทยาอย่างไร ฯลฯ องค์ประกอบมีอะไรบ้าง ลึกไปถึงบางส่วนของอุปกรณ์ในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งไม่ได้เป็นเนื้อหาที่ให้ความสำคัญไปกว่าหัวใจหลักของหัวข้อ เพียงแต่นำเสนอว่านี่คือส่วนประกอบที่ไม่ได้น่าเป็นเรื่องที่ต้องแอบแต่อย่างใด นิตยสารเล่มนี้ได้รางวัลไป
นอกจากหัวข้อและเนื้อหาแล้วทุกคนจะพูดถึง Editorial Design ที่เป็น Key Cornerstone ของการทำนิตยสาร ในส่วนนี้เองที่สะท้อนความสามารถของบรรณาธิการในฐานะวาทยากรของนิตยสารเล่มนั้น ๆ ว่าจะสามารถสร้าง Identity ในทุกองคาพยพตั้งแต่หน้าปก ทำอย่างไรที่เนื้อหาที่ดีจะไม่ถูกมองข้ามเพราะหน้าปก หรือจะไม่กลายเป็นนิตยสารที่ Over claim ไปเสียเพราะดีแค่หน้าปก
สองข้อหลักนี้คือสิ่งที่เหล่าบรรณาธิการนิตยสารใหญ่ตั้งแต่ The New York Times, National Geographic, Zeit Magazine, The Gentlewoman, Real Review, MacGuffin, Apartamento ฯลฯ พูดเหมือนกัน
หนังสือทั้งสองเล่มนี้ไม่ได้เป็นหนังสือออกใหม่ แต่ออกมาได้สักพักประมาณ 3-4 ปีแต่เนื้อหายังร่วมสมัย และยังพิมพ์ใหม่สม่ำเสมอ เวลามีงานนิตยสารทั้งสองเล่มเป็นส่วนหนึ่งในอีกหลาย ๆ เล่มที่ต้องมีจำหน่ายในงานประหนึ่งเป็น Bible สำหรับคนทำนิตยสาร
Ode to Booksellers